หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เป็นพระเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จึงทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปด้วย หลวงพ่อคูณเป็นพระชาวบ้านที่เข้าถึงมวลชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน นักการเมืองไปจนถึงชาวบ้าน ด้วยท่านมีเมตตามหานิยม มีวิธีการสั่งสอนที่ตรงไปตรงมาง่ายแก่การเข้าใจ ในแต่วันมีผู้ศรัทธาพากันมากราบนมัสการอย่างเนืองแน่น
ที่ตั้งและการเดินทาง
ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด รถยนต์ส่วนตัว จากอำเภอด่านขุนทดให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 2217 ไปทางอำเภอบำเน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ประมาณ 11 กม.จะเห็นซุ้มประตูวัดทางขวามือชัดเจน เลี้ยวเข้าไปอีกราว 1 กม.จะถึงที่ตั้งวัด ถ้ามาจากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 2 ขับผ่านอำเภอปากช่องถึงอำเภอสีคิ้ว เลี้่ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 201ขับตรงไปจนถึงอำเภอด่านขุนทด
ประวัติวัดบ้านไร่ :
เดิมเป็นสำนักสงฆ์ที่มีมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2436 ในช่วงรัชกาลที่ 5 โดยมี พระอาจารเชื่อม วิรโช เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ได้มีการสร้างศาสนอาคารต่างๆขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธเป็นเจ้าอาวาสได้มีการพัฒนาวัดมากที่สุด โดยมีผู้ศรัทธาจากทั่วประเทศ ได้ร่วมถวายวัตถุปัจจัยเป็นเงินมหาศาล หลวงพ่อคูณได้ก่อตั้งเป็นมูลนิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เพื่อกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ต่างๆ เช่นการบูรณะวัด การสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล เป็นต้น
สิ่งที่น่าสนใจ : นมัสการหลวงพ่อคูณ
วันละสองครั้ง 10.00-11.00 น.,14.00-17.00 น.ในแต่วันจะมีผู้ศรัทธานับพันคนมาเฝ้ารอกราบนมัสการและถวายวัตถุปัจจัย พร้อมทั้งขอพรจากหลวงพ่อคูณโดยให้ท่านเคาะหัวจนเป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่อคูณไปแล้ว วัตถุปัจจัยที่หลวงพ่อคูณได้รับจากชาวบ้านโดยเฉพาะเงินนั้นท่านจะคืนบางส่วนแก่ผู้ถวาย เพื่อนำไปเป็นขวัญถุงในการทำมาหากินต่อไป และเงินทองทรัพย์สินที่มีผู้ถวายมานั้นท่านก็จะนำไปพัฒนาชุมชนย่านด่านขุนทด โดยสร้างโรงเรียน โรงพยาบาลจัดตั้งมูลนิธิเพื่อผู้ยากไร้ในชุมชน จนได้ชื่อว่าเป็นพระที่ทำการบริจาคมากที่สุด วัตรปฏิบัติของท่านเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของสาธุชนทั่วประเทศ
เนื่องในโอกาสที่ท่านมีสิริอายุครบ 7 รอบ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2550 คณะศิษยานุศิษย์และสาธุชนได้ดำริที่จะจัดสร้าง
พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ
ความเป็นมาและประวัติ
"พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณปริสุทฺโธ" เพื่อเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความศรัทธาและบารมีทานอันยิ่งใหญ่ของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่และพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ซึ่งเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของมหาชนทั่วทุกสารทิศ
โดยคณะศิษยานุศิษย์หวังว่า พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณแห่งนี้ เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของวัดบ้านไร่ที่ได้จารึกตำนานของหลวงพ่อคูณ เพื่อเป็นแบบอย่างให้สาธุชนได้เจริญรอยตามปณิธานแห่งทาน บารมีของหลวงพ่อคูณให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน
นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานมูล นิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ และว่าที่ร้อยตรีไพโรจน์ สุวรรณฉวี รองประธานประธานมูล นิธิหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ และคณะกรรมการมูลนิธิหลวงพ่อคูณ คณะศิษย์และชาวเมืองโคราชทุกคนรู้สึกภูมิใจกับงานพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณครั้งนี้ สำหรับเป็นอนุสรณ์สถานและอุทยานธรรมแก่อนุชนคนรุ่นหลังได้ใช้เป็นที่ปฏิบัติและศึกษาคำสอนในพระพุทธศาสนาต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อนำเสนอเรื่องราวชีวประวัติของหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่เยาว์วัย การอุปสมบทเป็นพระภิกษุ วัตรปฏิบัติในสมณเพศ
2. เพื่อนำเสนอธารบารมีของพลวงพ่อคูณ ซึ่งก่อสาธารณประโยชน์ให้แก่ประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศและบางส่วนในต่างประเทศ
3. เพื่อรวบรวมคำสอนของหลวงพ่อคูณที่ได้เทศนาให้แก่ประชาชนในมิติต่างๆ
4. เพื่อนำเสนอกิจวัตรของหลวงพ่อคูณในมิติต่างๆ อาทิ หลวงพ่อคูณกับธรรมะ หลวงพ่อคูณกับพระบรมสานุวงศ์ พลวงพ่อคูณกับพระนักพัฒนา เป็นต้น
5. เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความศรัทธา และบารมีธรรมอันยิ่งใหญ่ที่หลวงพ่อคูณได้ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นการสืบสานบารมีทานของหลวงพ่อคูณให้แก่สาธารณชนได้รับรู้ และยึดถือ
รูปแบบของพิพิธภัณฑ์
รูปแบบของพิพิธภัณฑ์ได้สะท้อนเรื่องราวต่างๆ ของหลวงพ่อคูณ ผ่านภาพจิตรกรรมที่สร้างสรรค์ขึ้น บอกเล่าภาพชีวิตในอดีต จำลองบรรยากาศการออกธุดงค์ของหลวงพ่อคูณ แสดงให้เห็นถึงบารมีธรรมอันยิ่งใหญ่ ประติมากรรมที่สื่อถึงผลบุญของการให้ทานอันเป็นวัตรปฏิบัติสำคัญของหลวงพ่อ มหาทานของหลวงพ่อคูณที่ได้บริจาคเงินจำนวนมหาศาล เพื่อสาธารณประโยชน์
นอกจากนี้ ยังมีสิ่งของเครื่องใช้จำนวนมากมาย ซึ่งผู้มีจิตศรัทธานำมาถวาย อัฐบริขารและเครื่องใช้จำเป็นในการครองสมณเพศ นำมารวบรวมอยู่ในพิพิธภัณฑ์
การออกแบบพิพิธภัณฑ์ เพื่อสะท้อนให้เห็นว่าหลวงพ่อคูณ เป็นพระเกจิชื่อดังแห่งด่านขุนทด เป็นพระที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ดังนั้นการรังสรรค์ตัวอาคารและภายในพิพิธภัณฑ์ จะสื่อออกมาให้คนที่เข้ามาชมได้เห็นมิติแห่งพลังความเมตตาของหลวงพ่อคูณ สถาปัตยกรรมที่นำเสนอ จึงเน้นถึงความสงบเรียบง่ายเป็นหลัก วัสดุที่ใช้เรียบง่ายให้เหมาะสมกับการดำรงสมณเพศของท่าน แฝงด้วยหลักธรรม ประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ผู้ที่เข้าชมพิพิธภัณฑ์จะได้รับทราบข้อมูลในทุกแง่มุมของหลวงพ่อคูณได้อย่างลึกซึ้ง
โดยสถาปัตยกรรมที่เราได้ออกแบบ เป็นสถาปัตยกรรมยุคกรุงรัตนโกสินทร์ เนื่องจากท่านเป็นพระเกจิชื่อดังรูปหนึ่งแห่งยุคกรุงรัตนโกสินทร์ ที่คนไทยให้การยกย่องและเลื่อมใสศรัทธายิ่ง
ทั้งนี้
พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ แบ่งเป็น 2 ชั้น 11 โซน ประกอบด้วย
โซน 1 ศรัทธามหาชน จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อคูณท่านั่งยองๆ ขนาดเท่าจริง มีภาพจิตรกรรมและแสดงภาพประชาชนจากภาคต่างๆ มากราบนมัสการหลวงพ่อ มีบอร์ดกราฟิกเรื่อง เอกลักษณ์หลวงพ่อคูณ อาทิ การนั่งยอง รับปัจจัยใบเดียว เหยียบโฉนด เคาะหัว วัตถุมงคล เป็นต้น
โซนที่ 1
โซน 2 ภิกษุสมถะแห่งดินแดนอีสาน จัดแสดงสิ่งของจำลองบรรยากาศเหมือนห้องนอนเดิมของหลวงพ่อ พร้อมเสียงบรรยาย มีบอร์ดเล่าเรื่อง "ธรรมะข้างบันได" และภาพแสดงในหัวข้อ เทพเจ้าแห่งที่ราบสูง แบบอย่างของผู้บำเพ็ญทานบารมี
โซนที่ 2
โซน 3 กำเนิดผู้มีบุญ จัดแสดงหุ่นจำลอง ประกอบเทคนิคแสงเสียง ตอนโยมแม่ฝันเห็นดวงแก้ว อันเป็นนิมิตหมายอันดีของผู้มีบุญที่กำลังจะถือกำเนิด และภาพจิตรกรรม กำเนิดผู้มีบุญ
โซน 4 ตั้งจิตช่วยคนพ้นทุกข์ จัดแสดงภาพจิตรกรรมเมื่อครั้งที่หลวงพ่อได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และตั้งจิตปณิธานช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์
โซนที่ 4
โซน 5 ออกธุดงค์ จัดแสดงหุ่นจำลองย่อส่วนประกอบเทคนิคภาพเคลื่อนไหวและแสงเสียง จำลองเหตุการณ์เทศนาโปรดสัมภเวสี เมื่อครั้งออกธุดงค์ ในช่วงปี พ.ศ.2492-2495 และบอร์ดกราฟิก "จาริกบุญ จาริกธรรม" นำเสนอเรื่องเส้นทางธุดงค์ 3 ประเทศ ไทย-ลาว-เขมร
โซนที่ 5
โซน 6 พัฒนาวัดบ้านไร่ จัดแสดงหุ่นจำลองย่อส่วน 4 เหตุการณ์ ได้แก่ หลวงพ่อคูณสร้างโบสถ์ไม้เพื่อใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจของพระลูกวัด, หลวงพ่อคูณนำชาวบ้านขุดสระน้ำเพื่อเป็นที่เก็บน้ำไว้ใช้หน้าแล้ง, หลวงพ่อคูณปีนขึ้นเจิมป้ายโรงเรียนวัดบ้านไร่เพื่อความเป็นสิริมงคล และหลวงพ่อคูณใช้ยอดสากตำมวลสารศักดิ์สิทธิ์ นำมาสร้างพระเครื่องให้ศิษยานุศิษย์ได้บูชา มีบอร์ดแสดงภาพของการพัฒนาวัดบ้านไร่
โซนที่ 6
โซน 7 ทำบุญกับพระเจ้าอยู่หัว ประมวลภาพพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ การจัดแสดงวัตถุอันเป็นที่ระลึก วีดิทัศน์ประมวลภาพพระมหากรุณาธิคุณ
โซนที่ 7
โซน 8 มรดกทาน มรดกธรรม จัดแสดงรูปหล่อสำริดหลวงพ่อคูณท่านั่งวิปัสสนา การจัดแสดงวัตถุอันเป็นที่ระลึกถึงคุณูปการ เกียรติคุณของหลวงพ่อคูณที่ได้รับการเชิดชูยกย่องจากหน่วยงาน สถาบันและองค์กรต่างๆ ทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งข้อความในพินัยกรรม (มรณานุสติ)
โซนที่ 8
โซน 9 ทานบารมีทวีคูณ แสดงงานกราฟิกบนประติมากรรมต้นไม้แห่งทานบารมี วีดิทัศน์ประมวลภาพคอมพิวเตอร์ แสดงข้อมูลเรื่องการบริจาคทานของหลวงพ่อคูณในด้านต่างๆ
โซนที่ 9
โซน 10 เครื่องยึดเหนี่ยวใจใฝ่ทำดี มีตู้จัดแสดงวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ คอมพิวเตอร์เพื่อค้นคว้า สำหรับให้ผู้ชมได้อ่านข้อมูลวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ที่ได้รวบรวมไว้
โซนที่ 10
โซน 11 ให้แล้วรวย จัดแสดงวีดิทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับการทำบุญทำทาน ซึ่งเป็นภาพที่พบเห็นคุ้นตาในวิถีชีวิตของคนไทยเมื่อไปทำบุญ สอดแทรกคำสอนของหลวงพ่อคูณที่พูดถึงการทำบุญมาเป็นประโยคปิดท้ายในแต่ละช่วง ประติมากรรมต้นไม้แผ่ความรวย สื่อความหมายถึงการงอกงามของบุญกุศลที่ผู้มีจิตศรัทธาทุกคนได้ร่วมสร้างกับหลวงพ่อคูณ นอกจากนี้ ได้จัดแสดงผนังภาพ "๙ บุญคูณลาภ" แนะนำจุดทำบุญภายในวัดบ้านไร่ 9 แห่ง เพื่อความเป็นสิริมงคล หลังจากได้ชมพิพิธภัณฑ์แล้ว และตู้หยอดเหรียญที่ระลึกของพิพิธภัณฑ์
โซนที่ 11
หลังจากได้ชมพิพิธภัณฑ์แล้ว ผู้เข้าชมสามารถแลกเหรียญและนำไปหยอดตู้หยอดเหรียญที่ระลึกของพิพิธภัณฑ์ เพื่อเก็บเป็นที่ระลึกเป็นสิริมงคล รายได้ทั้งหมดใช้ในการบำรุงกิจการของพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ จากนั้น ลองมาประลองความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของหลวงพ่อคูณที่เราได้ชมในพิพิธภัณฑ์มาเล่นเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นเกมตามรอยธรรมหลวงพ่อคูณ มีคำถามทดสอบความจำและความเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ถ้าตอบถูกแต่ละข้อจะได้รับคติธรรมและคำพรจากหลวงพ่อคูณ
สุดท้าย หลังจากที่เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณเสร็จแล้ว หากมีเวลาพอยังสามารถเข้าไปกราบนมัสการหลวงพ่อคูณได้ที่ศาลาโบสถ์วัดบ้านไร่ และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในวัดบ้านไร่ได้ตามอัธยาศัย
พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณแห่งนี้ รวบรวมวิถีปฏิบัติ แนวคิด คำสอนของหลวงพ่อคูณไว้ครบถ้วน เพื่อเป็นต้นแบบให้สาธุชนได้ศึกษาและเจริญรอยตามปณิธานแห่งทานบารมีของหลวงพ่อคูณไปตราบกาลนาน